Titleist 910 D2 Aldila RIP 60S, Fujikura Motore F3 60S

Titleist 910 D2

เห็นแล้วก็อดใจไม่ไหวอีกเช่นเคย เมื่อก่อนเคยใช้ Titleist 905T Aldila NV 65S สมัยก่อนนู้น แล้วก็ไปเปลี่ยนก้านอีกครั้งเป็น Grafalloy Blue เมื่ออ่านหนังสือเยอะขึ้นเห็นโปร PGA ใช้ก้านความยาวแค่ 44.25 อาการคันก็อยากทำตามบ้าง ก็ไปที่ร้านให้ช่างตัดความยาวที่ต้องการ จากปรกติที่ไดร์ฟสั้นอยู่แล้วก็ปรากฏว่าไดร์ฟสั้นกว่าเดิมตามความสั้นของก้านเข้าไปอีก

Spec Check : Titleist 910 D2 Aldila RIP 60S

Titleist 910 D2 Aldila RIP 60S

Titleist 910 D2 Head weight 195.5
Total weight 321g.

Swing weight D5

Length 45"

CPMs 245.9

Spec Check : Titleist 910 D2 Fujikura Motore F3 60S

Titleist 910 D2 Fujikura Motore F3 60S

Titleist 910 D2 Head weight 195.5

Total weight 318g.

Swing weight D5

Length 45"

CPMs 246.2

นั่นเป็นเพราะความไม่รู้นักกอล์ฟบางท่านชอบที่จะจับกริฟสั้นๆ หรือจับโช็คดาว์น เพื่อความถนัดของแต่ละบุคคล แล้วเกิดมีความคิดถ้าไปตัดก้านก็น่าจะดี ขอเตือนเลยนะครับว่าอย่าทำ เดี๋ยวจะทำให้ของดีกลายเป็นของเสีย เพราะผมก็ทำมาเยอะแล้วอย่าพลาดแบบผมนะครับ

ขอยกตัวอย่างเช่นน้ำหนักหัวไดร์ฟเวอร์หนักที่ 200 กรัม กริฟหนักที่ 51.5 กรัม ที่ความยาว 45 นิ้ว น้ำหนักก้านที่ 55 กรัม จะได้สวิงเวทที่ D1 แต่พอเป็นก้านที่มีน้ำหนัก 65 กรัม สวิงเวทก็จะเพิ่มขึ้นเป็น D2 ก้านหนัก 75 กรัม สวิงเวทก็เป็น D3 และก้านที่หนัก 85 กรัม สวิงเวทเป็น D4 ก็สรุปได้ว่าค่าสวิงเวทผันแปรตามน้ำหนักก้านโดยที่น้ำหนักหัวและกริฟมีน้ำหนักเท่าเดิม

Aldila RIP 60S น้ำหนักก้าน 63 กรัม Toruqe 2.9 จุดดีดของก้านเป็น Mid-High จึงให้วิถีลูกปานกลางจนถึงต่ำ จากการที่ได้ลองในสนามไดร์ฟฟิลลิ่งก้านก็ต่างจากหัวที่เคยใช้เมื่อก่อนคือ TaylorMade R9 SuperDeep TP อยู่พอสมควร แต่โดยรวมก็เป็นหัวไม้ที่เหมาะกับนักกอล์ฟมือดี แต่ต้องการความง่ายแต่ยังควบคุมวิถีลูกได้ดี แต่เมื่อเห็นน้ำหนักรวมผมก็ถอดใจแล้ว เพราะหนักไปนิด

Fujikura Motore F3 60S น้ำหนักก้าน 61 กรัม Toruqe 3.3 จุดดีดของก้านเป็น Mid จึงให้วิถีลูกปานกลางได้ลองในสนามไดร์ฟอีกเหมือนกันความชอบต่างกันแต่ก็ตีนุ่มกว่า RIP เยอะอยู่พอสมควร สำหรับผมก็เฉยๆ แต่เพื่อนชอบครับ