ส่วนในการเลือกซื้อนั้นควรมองลักษณะการใช้งานเป็นหลัก รองเท้ากอล์ฟรุ่นใหม่นั้นมีการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับนักกอล์ฟ Weekend ที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงจะเดินสักเท่าไหร่
Adidas Tour 360 3.0 หลังจากใช้งานมา 7 เดือน
ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อนั้นอยู่ที่รูปแบบความสวยงาม กันน้ำหรือเปล่า การระบายอากาศเป็นอย่างไร สวมใส่สบายดีไหม ความคงทนและสุดท้ายราคา
รองเท้ากอล์ฟไม่ควรจะใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไปมิฉะนั้นท่านจะตายหลังจากที่เดินได้ไม่กี่หลุม ควรจะเลือกให้ตรงกับขนาดเท้าของคุณตามปกติและไม่จำเป็นต้องไปซื้อที่มีเบอร์ขนาดใหญ่กว่าครึ่งหนึ่งเพื่อใส่ถุงเท้าหนาเสริม
แผ่นซับแรงกระแทกของรุ่นทัวร์นั้นหนากว่าปกติ
รองเท้ากอล์ฟที่ผมใส่นั้นมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี บางรุ่นก็เสียและสึกก่อนเวลาอันควร ลองมาดูรอยสึกจากการใช้งานกันนะครับ
Adidas Tour 360 II รุ่นนี้มีปัญหาตรงพื้น เพราะมีวัสดุหลายชิ้นประกอบกัน
Footjoy Dryjoys หลังจากใช้งานผ่านหนึ่งปี
Footjoy Dryjoys พื้นทนมาก แต่หนังก็ขาด
พื้นรองเท้ากอล์ฟของแต่ละรุ่นและแบรนด์ สังเกตจำนวนปุ๋มรองเท้า
จากด้านซ้ายมือ
Adidas Tour 360 II, Adidas Tour 360 3.0, Footjoy Dryjoys
ก่อนที่ผมจะซื้ออะไรสักอย่างผมก็ต้องหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อ จากข้อมูลที่ได้มาจากต่างประเทศนั้นมีการเปรียบเทียบในเรื่องราคาและคุณภาพของสินค้าคือ Adidas Tour 360 II Vs Footjoy Dryjoys ในต่างประเทศนั้นให้ Footjoy Dryjoys เป็นตัวเลือกอันดับแรกเพราะว่าในเรื่องของราคาและคุณภาพ ซึ่งในต่างประเทศนั้นราคาของ Addidas ค่อนข้างสูงกว่า ณ เวลานั้น และรอยสึกต่างๆ ก็เป็นในแบบที่ผมได้ถ่ายรูปให้ดูแล้ว
ส่วนในบ้านเราราคาของ Footjoy Dryjoys นั้นสูงกว่า Adidas Tour 360 อยู่พอสมควร ราคาที่ผมซื้อ Tour 360 II 4,800 แต่ Dryjoys 5,500 ซื้อในห้างที่เป็นราคาที่ลดแล้ว ส่วน Tour 360 3.0 นั้นราคา 3,800 บางครั้งผมก็งงกับทิศทางการตลาดทั้งสองค่ายนี้อยู่เหมือนกันครับ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในซื้อรองเท้ากอล์ฟอย่าลืมขอใบรับประกันทุกครั้ง ได้ใช้แน่และช่วงนี้เป็นหน้าฝนรองเท้าที่กันน้ำได้ย่อมดีกว่าแน่นอน เดินสบายเจ็บเท้าน้อยกว่าใส่ถุงเท้าสองชั้นลดอาการเจ็บส้นได้เยอะนะครับ อ่านต่อ ปุ่มรองเท้าใครว่าไม่สำคัญ
หากให้ดีควรซื้อรุ่นที่รับประกันน้ำไม่เข้า 2 ปี เพราะแพงยังไงไม่เกินปีน้ำเข้าแน่ๆ
ReplyDeleteผมได้เปลี่ยนคู่ใหม่มาแล้วครับ