Geek Fail Safe 3 House Of Forged HD Prototype Review

ได้ยินชื่อนี้มาไม่นาน ก้านอะไรหว่าชื่อ House Of Forged มันมีด้วยเหรอ ? แต่เมื่อมาอ่านคำฝอยดูแล้วโอ้วโห สเปกและเทคโนโลยีไม่เบาเหมือนกัน เทียบกับสเปกของก้าน Matrix Ozik HD ดูแล้วเหมือนกันเลยแต่สิ่งที่ต่างกันคือสีและราคาขายที่ต่างกันลิบลับ 

Our new HD PROTOTYPE shaft series feature MATRIX’S state-of-the-art “HD Design” technology, which incorporates a 16-sided hexdecogonal mandrill in order to increase elasticity in the butt-end of the shaft, while increasing the stability in the tip-section. 

This innovative engineering promotes a high-launch with the low-spin characteristics, which are necessary for monster drives.  These shafts also offer some self-correction to decrease the side-to-side dispersion = the ultimate standard driver shafts. 

Geek Fail Safe 3 House Of Forged HD Prototype 63 Regular

Total Weight : 310

Swing weight : D3.5

Length: 45.75

CPMs : 237

Culture Shock 

Culture Shock คือ คำที่ใช้อธิบายความรู้สึกและความตื่นเต้นของผู้ที่เผชิญกับสิ่งแวดล้อมใหม่หรือความรู้สึกสับสนต่อวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย เมื่อก่อนพอได้ยินนักกอล์ฟรุ่นพี่ท่านหนึ่งพูด ออกรอบเสร็จหักค่าใช้จ่ายหมดแล้วมันก็ต้องมีเงินเหลือค่ากับข้าวหน่อย ได้ยินตอนแรกควันแทบออกหู หรือโปรคุยกับโปรด้วยกันเอง คุณมีอาชีพอะไร รายได้ของคุณมาจากไหน การไปเดินออกรอบสนุกๆ กับเพื่อนๆ น้องๆ โดยไม่มีเดิมพันนั้น เสียเวลาและโอกาสหาเงิน มีค่าใช้จ่ายในการออกรอบอีก หรือเมื่อตอนที่ผมหัดเล่นใหม่ๆ ไปซื้อชุดเหล็กใหม่ๆ มา 30,000 กว่าๆ ใช้ไม่ถึง 3 เดือน พอไปถามร้านค้าว่ารับซื้อคืนเท่าไหร่ คำตอบที่ได้มาคือ 15,000 ณ ตอนนั้นสำหรับผมก็รับกับเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้เหมือนกันเพราะมีความรู้สึกว่า ร้านค้าคิดกันแบบนั้นได้อย่างไร อาจเป็นอาการช็อค ซึ่งเป็นเพราะว่าเรานั้นมักจะมองเหตุการณ์ในมุมของเราเอง ตัวเราถูกต้องเสมอ

การเล่นเดิมพันสำหรับนักกอล์ฟใหม่ อาจเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยหรือท่านที่รังเกียจการเดิมพันคุยด้วยกันก็คงจะยาก ทุกอย่างมันมีสองด้านเสมอ ชอบหรือไม่ชีวิตเลือกได้ ทุกวันนี้โปรหลายๆ ท่านก็บ่นๆ อยู่เหมือนกัน รายได้แทบจะไม่พอ ไหนจะค่านมลูก ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายอีกจิปาถะ มีคนอยากเรียนกอล์ฟเยอะแต่ไม่อยากจะจ่ายเงินเรียน หรือเมื่อนักกอล์ฟใหม่ไปออกรอบกับโปรถ้าโปรชวนเล่นเดิมพันถ้าไม่เกินหลุมละร้อยสำหรับผมนั้นรับได้ เพราะมันจะทำให้ท่านแกร่ง ตั้งใจเล่น ความตื่นเต้นอีกสาระพัดจะตามมาเป็นการเพิ่มประสบการณ์เป็นการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการออกรอบของโปรด้วย

สำหรับร้านค้าเมื่อเรานำไปขายหรือฝากขายก็แล้วแต่ ทุกคนย่อมอยากได้ในราคาที่สูง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วยากมาก ถ้าทางร้านตีราคาให้ท่านแค่ 50% ของมูลค่า นั่นก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าท่านจะใช้ไม่กี่ครั้งก็ตาม แล้วเมื่อเวลาผ่านไปท่านอาจจะเห็นสินค้าของท่านถูกตั้งในราคาที่เพิ่มจากการรับซื้อคืนจากท่านในราคาที่อาจจะสูงถึง 30-40% นั้น ทางร้านมีค่าใช้อื่นอีกตั้งเยอะ ไหนจะค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ ค่าความเสี่ยงจากสินค้าตกรุ่น ถ้าขายได้เร็วหน่อยก็ได้กำไร ถ้าอยู่นานก็หมายถึงต้นทุนที่เริ่มจะสูงขึ้นทุกวัน ถ้าเข้าใจว่าร้านค้าไม่ใช่องค์กรการกุศล ท่านก็จะสบายใจเองเพราะทุกคนก็มีค่าใช้จ่ายและต้องกินต้องใช้ แต่สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดก็ยังไม่เท่ากับความรู้สึกที่ผมได้รับมานานจากการเป็นผู้ขายอุปกรณ์กอล์ฟที่เว็ปไซต์แห่งหนึ่ง รู้สึกว่าผู้ขายอุปกรณ์กอล์ฟเหมือนประชาชนชั้นสองยังไงชอบกล ก็คงเป็นอาการซ็อคที่ยังไม่หายเสียทีครับ

การทดสอบโดยการออกรอบ

ช่วงปลายเดือนสิงหาที่ผ่านมาผมได้ไปเล่น 3 สนาม ที่ Loch palm Golf Club, Red Mountain Golf Club, สนามกอล์ฟราชนาวีทับละมุ ก็เป็นช่วงหน้าฝนและพายุเข้าพอดี ฝนตกตลอดเป็นอาทิตย์ก่อนถึงวันเดินทาง วันแรกไปถึงก็เล่นที่ Loch palm Golf Club ส่วนวันที่สองซึ่งฝนไม่ตกก็เล่นที่ Red Mountain Golf Club ซึ่งเป็นสนามที่ผมอยากเล่นมานานมาก สนามสวยแต่เนื่องจากฝนตกติดต่อมาหลายวันก็เลยขาดความเนียบไป แต่สิ่งที่ทางสนามนี้ทำให้ผมจำไปตลอดนั่นก็คือหลังจากที่เล่นซ็อตที่สองในหลุม 2 พาร์ 4 แฟร์เวย์ก็เกิดรอยดิว็อทจากการตีด้วยเหล็ก Titleist  AP2 710 Project X 5.0 Flighted ที่ขายไม่ออกจึงจำใจใช้และเพิ่งเปลี่ยนก้านมา ของเดิมเป็นก้าน Dynamic Gold Tour Issue S400 ที่หนักเกินไป ปรากฎว่าแค๊ดดี้ผมเธอใช้เหล็ก 6 ไปตักทรายในแฟร์เวย์บังเกอร์เพื่อกลบรอยดิว็อท พระเจ้าช่วย !!!! เกิดมาไม่เคยเจอ คิดได้ไง?? เป็นชุดเหล็กที่ใหม่มากๆ ประกอบก้านเสร็จผมก็ไม่ได้ซ้อมเอามาลองของจริงในสนามเลย ผมก็เลยเอ็ดเธอไป .”ไม่มีอะไรจะตักทรายแล้วเหรอ ?” ส่วนวันที่สามก็กลับมาเยือนสนามกอล์ฟราชนาวีทับละมุ  ที่เมื่อก่อนผมยังตีสกอร์ร้อยกว่าๆ สนามก็ราคาย่อมเยาว์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนการขาดการดูแลที่ดีไปนิดนึง 

หลังจากออกรอบมาสามวันติดกันที่ผมไม่ซ้อมมาก่อน เนื่องจากเจ็บสะบักซ้าย ก็พอได้ข้อสรุปสำหรับ Geek Fail Safe 3 House Of Forged HD Prototype 63R เมื่อจับกริฟเต็มตามความยาวที่ 45.75 นิ้ว ค่อนข้างมีปัญหาในการปรับตัวอยู่พอสมควร เนื่องจากก้านอ่อนไปและไม่เข้ากับเทมโปรของผม ทั้งที่เมื่อดูค่า CPM นั้นถือว่าแข็งนั่นเป็นเพราะฟิลลิ่งของตัวก้านเองที่ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบนี้แข็งแต่ไม่รู้สึกว่าแข็ง ส่วนการปรับตัวระหว่างออกรอบที่ง่ายที่สุดนั้นก็คือการจับกริปโช็คดาวน์ลงมาจึงสามารถควบคุมวิถีลูกได้ เรื่องระยะทางนั้นถือว่าดีมาก วิถีลูกลอยสวยสปินของลูกก็น้อย

House Of Forged HD Prototype 63 Regular

Torque : 3.3   

Bend Point  : Mid-High

Luanch :  Mid         

Club Head Speed : 85-95/mph

ปัญหาที่เจอสำหรับก้านรุ่น HD 65 ตัวนี้จากการสอบถามผู้ใช้ก้านรุ่นนี้ใน Flex S ของ ปฤณ ศิริสมหมาย นักกอล์ฟทีมชาติ หลังจากได้ใช้ออกและซ้อมสองวันติดปรากฏว่าระยะไม่เดิน แต่หลังจากปรับตัวได้ในวันต่อมาก็ได้ระยะที่ไกลกว่าก้านเดิมที่เป็น UST Mamiya ATTAS-T2 65S สวิงเวทที่ทำไว้กับหัว Fourteen นั้น D3 ความยาวก็น่าจะ 45.75 นิ้วขึ้นไป คาดว่าน้ำหนักหัวน่าจะใกล้เคียงกันกับ Geek Fail Safe 3

สำหรับตัวผมเองก็เกิดอยากจะรู้อีกเหมือนกันว่าถ้าตัดก้านลงอีกนิดเหลือที่ 45.5 นิ้ว แล้วมันจะเป็นยังไง เพราะเบื่อกับการจับกริปโช็คดาวน์ลงมา จากสวิงเวท D3.5 เหลือ D1.8 ก็ไปให้เพื่อนๆ พี่ๆ ลองในสนามไดร์ฟอีกครั้งปรากฏว่าตีไม่ไป แล้วก็ลองเปลี่ยนน้ำหนักกริฟไล่จาก 47 กรัมก็แล้ว 42 กรัมก็แล้วก็ไม่ได้ผล เพราะฉะนั้นความยาวก้านและน้ำหนักหัวมีความสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก ถึงแม้ว่าจะใช้ก้านกับหัวตัวนี้ไม่ได้แล้วแต่ถ้าเปลี่ยนไปใช้หัวที่มีน้ำหนักมากกว่าก็ยังใช้ได้อยู่เหมือนเดิมครับ


Geek Fail Safe 3 Miyazaki Kusala Blue 61R Review
Geek Dot Com This Miyazaki C.Kua 43R Review