เดือนตุลาคม 2554
เหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย
หลายชีวิตต้องอพยพหนีน้ำ โรงงานหลายร้อยหลายพันจมน้ำ ที่ยังไม่จมก็ป้องกันอย่างเต็มที่
ส่วนเหตุการณ์ในต่างประเทศผู้นำลิเบียได้จบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ หนังสือพิมพ์ลอส
แอนเจลิส ไทม์ส เปิดเผยว่า พันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี มีทรัพย์สินในบัญชีธนาคาร
สินทรัพย์สุทธิ และมูลค่าธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก รวมแล้วกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หรือประมาณ 6.16 ล้านล้านบาท มากกว่ามูลค่าทรัพย์สินของคาร์ลอส สลิม (7.4
หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ), บิล เกตส์ (5.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และวอร์เรน
บัฟเฟตต์(5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) รวมกันเสียอีก
ส่วนอีกคนหนึ่งที่นับเป็นการสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่ของอเมริกาและของโลก สตีฟ จ็อบส์ บุรุษผู้เปลี่ยนแปลงโลกด้วยเทคโนโลยี ปิดตำนานผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งซิลิคอน แวลลีย์ จะเห็นได้ว่าทั้งอำนาจและทรัพย์สินที่มีมากมายนั้นทำให้บุคคลทั้งสองถูกกล่าวถึงกันอย่างมากทั้งบวกและลบ แต่เมื่อสิ้นชีวิตไปแล้วก็ทำอะไรกันมันไม่ได้ หลายท่านประสบปัญหาทรัพย์สินสียหายระหว่างน้ำท่วม แต่สิ่งเหล่านั้นก็เป็นของนอกกาย ความคิดของมหาเศรษฐีในโลกยุคปัจจุบัน บิล เกตส์ ได้กล่าวว่าการมีเงินเกินล้านดอลลาร์ ใครๆ ก็อยากมี เพราะทำให้เขามีอิสรภาพทางด้านการเงิน จริงๆ แล้วไม่ว่าจะมากขึ้นไปอีกเท่าไหร่มันก็มีค่าเท่ากัน การมีชีวิตอยู่ต่อไปเป็นสิ่งสำคัญกว่าไม่นานเดี๋ยวมันก็ได้กลับมาเองอย่าได้ลดละความพยายาม ยอมรับและอยู่กับมันให้ได้
ระหว่างขับรถกลับบ้านก็นึกถึงเรื่องที่อาจารย์เคยสอนในชั้นเรียน
จำไม่ได้ว่าตอนไหนแต่ก็รู้สึกว่านานเหมือนกัน
มีสองสามีภรรยาคู่หนึ่งอาศัยอยู่ต่างจังหวัดเป็นข้าราชการทั้งคู่
แต่ต้องทำงานคนละจังหวัด การติดต่อสื่อสารในสมัยก่อนโน้นที่โทรศัพท์ยังไม่แพร่หลาย
โทรเลขจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแต่การที่จะใช้คำพูดที่ฟุ่มเฟือยจะทำให้ต้องเสียค่าบริการที่คิดเป็นตัวอักษร
จำไม่ได้ว่ากี่บาท การใช้ถ้อยคำที่กระชับจึงเป็นสิ่งจำเป็น “ไม่มา มา” และ ”มา
ไม่มา” สองประโยคสุดฮิตที่ทั้งคู่ใช้ติดต่อกัน ผมก็ได้แต่สงสัยมันคืออะไรกัน
ส่วนคำเฉลยนั่นก็คือเนื่องด้วยทั้งคู่เพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นานแต่ต้องแยกกันอยู่เพราะหน้าที่การงาน
ไม่มา นั้นหมายถึงประจำเดือนไม่มา ส่วน มา นั้นหมายถึงให้สามีกลับมาหาตัวเองที่บ้าน
มันก็เลยเข้าเรื่องกับเหตุการณ์น้ำท่วม ณ ตอนนี้เขตที่ผมอาศัยอยู่คือเขตประเวศ
มีแนวโน้มว่าจะไม่ท่วม ทั้งแกนและก้านสมองก็ทำงานไปเรื่อยๆ
คิดอยู่เหมือนกันว่าจะมาหรือไม่มาแล้วเมื่อไหร่จะมา ?
กลับมาเข้าเรื่องกันเสียทีจากความที่ตั้งใจว่าอยากจะทำรีวิว
Fubuki K Series อย่างเดียว เมื่อโดนตั้งคำถามไม่เอาตัวนี้ไปด้วยเหรอ ?
ด้วยความเกรงใจ ได้ครับพี่ Matrix Ozik 6M3 Black Tie ก็ได้ติดสอยมาด้วย
เนื่องจากตัวผมเองค่อนข้างมีทรรศคติที่ไม่ค่อยดีกับก้านยี่ห้อนี้
เพราะว่าตีไม่ค่อยไปเพราะความเร็วหัวไม้ไม่ถึง นั่นเป็นเหตุผลที่ดีที่อยากจะปฎิเสธ
The OZIK M3 series
represents the culmination of what Matrix has learned in recent years regarding
what the young, aggressive power players on the PGA Tour demand. Designed on
the industry leading and patented HD platform, the OZIK M3 features a flat,
lower spinning ball flight often preferred by players with higher ball speed.
The genesis of the M3 resonates from the flight model of the highly successful
M2 series, a winner of numerous PGA Tour events including 2 Majors. Better
players preferring additional stability in the tip section will benefit from
the tightest design construct ever released by the Matrix R&D team.
SHAFT
|
FLEX
|
WEIGHT
|
TORQUE
|
LAUNCH
|
SPIN
|
FEEL
|
TIP
|
MID
|
BUTT
|
6M3 W
|
ST
|
64.5
|
3.4
|
Low
|
Low
|
Stiff
|
Stiff
|
Firm
|
Mid
|
7M3 W
|
ST
|
70.5
|
3.3
|
Low
|
Low
|
Stiff
|
Stiff
|
Firm
|
Mid
|
8M3 W
|
ST
|
80
|
3.5
|
Low
|
Low
|
Stiff
|
Stiff
|
Firm
|
Mid
|
R9
SuperTri Tour Issue Matrix Ozik 6M3
Total
weight 316.3g.
Length
45.40
Swing
weight D4.5
CPMs
253
|
การทดสอบในสนามไดร์ฟ
หัวที่ใช้ทดสอบในสนามไดร์ฟคือ
R9 SuperTri Retail เพราะว่าตอนนั้นหัว R9 SuperTri Tour Issue ยังไม่ได้แกะพลาสติก
และได้ให้นักกอล์ฟฝีมือดี ความเร็วหัวไม้เกิน 105 mph ขึ้นไปได้ลอง Fubuki K
Series 50SR ก็ตีชนป้ายดังพอใช้ได้ และเมื่อเปลี่ยนเป็นก้าน Matrix Ozik 6M3
Black Tie Stiff มันลอยข้ามรั้วไปเลย
การที่ความเร็วหัวไม้ขนาดนี้ตีข้ามรั้วเป็นเรื่องปกติ
นั่นเป็นเพราะว่าก้านมีเฟล็กและน้ำหนักก้านที่เหมาะสมกับความเร็วหัวไม้
การที่ตีก้านที่มีน้ำหนักเบาและเฟล็กที่อ่อนกว่าไม่ได้ทำให้ได้ระยะที่เพิ่มขึ้นอย่างที่คิดเสมอไป
เมื่อมองดูผลงานของผู้ทดสอบทรรศคติที่แย่ของผมเริ่มจะจางหายไป
การทดสอบโดยการออกรอบ
หัวที่ใช้ทดสอบในการออกรอบก็เป็น
R9 SuperTri Tour Issue เพราะเริ่มเบื่อกับความง่ายของตัว Retail
ที่หาลูกง่ายเกินไป เดี๋ยวนี้ผมมักไม่ค่อยจะชอบไดร์ฟเวอร์ที่มีน้ำหนักรวมมากนัก
เพราะมันหนักและเหนื่อยก็เป็นเหตุผลที่ผมจะปฎิเสธและไม่ชอบก้านตัวนี้
เมื่อได้เปลี่ยนเป็นก้านตัวนี้ในเก้าหลุมที่สนามการไฟฟ้าบางประกง
สองสามหลุมแรกก็ตีไม่ค่อยจะเข้าสักเท่าไหร่ ระยะก็หายไปพอสมควร
พอเริ่มปรับตัวได้สิ่งที่เห็นชัดคือพลังของการปะทะลูก จนแคดดี้บอก
“เหมือนลูกจะแตกเลยนาย” ผมก็รู้สึกว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ระยะที่ได้ก็ไกล
วิถีลูกต่ำ สปินน้อยตามบุคคลิกของก้าน
รู้สึกถึงปลายก้านแข็งจึงทำให้ฟิลลิ่งนุ่มน้อย ส่วนอีกสนามคริสตัลเบย์ ในวันที่ลมแรง
การตีทวนลมค่อนข้างดีทั้งหัว Tour Issue
ที่ให้วิถีลูกที่ค่อนข้างต่ำบวกกับก้านที่ให้วิถีลูกต่ำ ก็เลยต่ำไปกันใหญ่
ตกแล้วก็วิ่งดี แรงต้องถึงทุกเม็ดจะได้อารมณ์สุดๆ ครับ แล้วตกลงว่าจะมาหรือไม่มา ?
อย่ามายั่วนะ
ReplyDeleteน้ำมันท่วมอยู่ด้วย
นั่งดูไม้ ไม่ได้เล่นเลย
:(
fastserve
น้ำยังไม่ท่วม แต่ไม่มีอะไรทำ ชิ้นต่อไป
ReplyDeleteAdams Speedline 4G UltraLite lolf 12 เพราะยังไม่เคยมีและเคยทดสอบ แต่ผมอยากสอบถามความคิดเห็นว่าจะใช้ก้านตัวไหนกับหัวรุ่นนี้
ตัวเลือกที่มีไว้ในใจดังนี้
1. Miyazaki Kusala Indigo 61S
2. Miyazaki C.Kua 43X
3. House Of Forged HD Prototype 45R ตัดปลายก้านสัก 1-1.5 นิ้ว
อยากได้ข้อมูลอันไหนแนะนำมาได้เลยครับ
พรุ่งนี้ผมจะใช้ก้านเดิมที่ทั้งเบาและอ่อนแต่ก็หนึบใช้ได้ Mitsubishi Rayon Bassara Regular Lite 44g ไปพลางๆ ก่อนครับ