Titleist 910 D2 Miyazaki Dromos 61R Review

The Miyazaki Dromos series is the first Miyazaki design to utilize QUAD ORTHOGONAL BIAS technology. This technology strategically orients the origination and termination axes for each layer of carbon fiber to effectively eliminate the "spine" effect. The result is a consistent feel and predictable performance regardless of orientation in an adjustable driver.

Miyazaki Dromos 61RWeight : 61g.Tip size : .335Luanch : MidTorque : 4.4Butt DIA : .610 International Flex Code : 4423

The Miyazaki Dromos shafts are design for better players who have an understanding of shaft dynamics, and can take advantage of them. The lowest flex available in this shaft is a R, so players with lower swing speeds should stand clear. With 8 versions and varying stiff throughout the shafts, with the use of the International Flex Code system, you can get varying ball trajectories, all with good control, great feel and reduced spin.

Titleist 910 D2 10.5 Miyazaki Dromos 61R
Titleist 910 D2 Head weight 195.5g
Total weight 310g.
Swing weight D2.5
Length 45"
CMPs 228.57

หลังจากเฝ้ารอ Titleist 910 D2,D3 Sure Fit Adapter มานานร่วมอาทิตย์ ก็ได้ประกอบก้านเสร็จเรียบร้อย สิ่งที่น่าประหลาดใจน้ำหนักรวมหายไปเยอะมากเมื่อเทียบกับก้าน RIP 60S ที่มีน้ำหนักรวมุถึง 321 กรัม และก้าน Fujikura Motore F3 60S ที่มีน้ำหนักรวม 318 กรัม แต่ตัวที่ประกอบนี้ก็ยังไม่ได้ใส่ Ferrule ที่มีน้ำหนักอีกประมาณ 1 กรัม สวิงเวทและน้ำหนักรวมอาจเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยเมื่อใส่เข้าไป

Titleist 910 D2 ถูกออกแบบมาเพื่อให้ปรับองศาและไลให้เข้ากับตัวผู้ใช้มากที่สุด ที่ผมยังไม่ได้ใส่ Ferrule นั้นผมต้องการที่จะทดสอบว่า มุมหรือองศาไหนของไดร์ฟเวอร์ที่เหมาะกับผมมากที่สุด ก็จะเป็นแนวทางในการหามุมก้านที่เหมาะสม พร้อมกับตำแหน่งของมุมก้านเมื่อประกอบกับ Adapter ซึ่งตัวนี้ก็น่าจะใช้เวลาอีกสองถึงสามอาทิตย์ในการซ้อมและการออกรอบ

การทดสอบในสนามไดร์ฟ

ได้ให้เพื่อนนักกอล์ฟและโปรหลายๆ คน ที่มีความเร็วหัวไม้ตั้งแต่ 90 -115 Mph ขึ้นไป ซึ่งผมก็บอกหลายท่านว่าคนนี้เป็นคนแรกหรือคนที่สองและสามของประเทศนะที่ได้ลองก้านตัวนี้ เพราะเมื่อไม่มีข้อมูลการตัดสินใจเลือกซื้อก็คงเป็นไปได้ยาก ซึ่งก็มีน้อยคนที่เป็นเช่นผมหรืออาจมีมากกว่าผมก็เป็นได้

ด้วยองศา 10.5 จึงทำให้ผู้ทดสอบที่มีความเร็วหัวไม้สูง วิถึลูกก็สูงลอยออกไป แต่จากการสอบถามผู้ทดสอบว่าเป็นอย่างไรบ้างกับก้านตัวนี้ ทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าฟิลลิ่งดี ก้านไม่ดิ้น เมื่อใส่เต็มๆ แต่ก้านอ่อนไปนิด ซึ่งผมก็ว่าเป็นอย่างนั้นเหมือนกันเพราะเป็นก้าน R และมี Torque 4.4 แต่สำหรับเพื่อนที่มีความเร็วหัวไม้ประมาณ 90-95 เมื่อเห็นผลงานด้วยวิถีลูกที่ออกจากหน้าไม้ วิถีลูกออกไปสวยฟิลลิ่งดี ด้วยน้ำหนักรวมที่ไม่เยอะจึงเป็นที่น่าพอใจสำหรับความเร็วหัวไม้เท่านี้ แต่ถ้าท่านอยากรู้ว่าสปินเรทของท่านเป็นอย่างไรก็หาลองได้ที่ Club Fit All Star ที่ร้านมีเครื่อง Flight Scope และก็มีก้านตัวนี้แล้วครับ

ความแตกต่างระหว่าง Kusala Blue 61R นั้นก็ต่างกันเพราะTorque 3.6 Kusala Blue ปลายก้านถูกออกแบบมาให้มีปลายก้านที่แข็งจึงเหมาะกับนักกอล์ฟที่มีวงสวิงที่ค่อนข้างดี ความต่างก็เกิดตัวนี้ตีง่ายกว่าเมื่อเทียบกัน Flex ต่อ Flex ซึ่งผมก็คาดการผิดไปนิด น่าจะเอา Flex S มาทดสอบ แต่ด้วยความที่กลัวเพราะเห็นน้ำหนักก้านที่มี 62 กรัม ใน Flex S จึงจิ้มไปที่ Flex R แต่ก้านก็ไม่ดีดดิ้นอะไร ก็คงต้องรอออกรอบในอาทิตย์หน้าแล้วค่อยว่ากันใหม่ครับ

หลังจากไปออกรอบที่สนามโลตัส วัลเลย์ สนามนี้ก็ไม่เคยเล่นแท่นหลังมาก่อนก็รู้สึกแปลกๆ นิดนึง จากระยะที่เคยเล่นตามปกติ ระยะไดร์ฟสำหรับก้าน Miyazaki Dromos 61R ก็ถือว่าได้ระยะที่น่าพอใจ
วิถีลูกที่ออกจากหน้าไม้ได้มุมเหินตามที่ผมต้องการ ส่วนอาการแหกนั้นหลังจากลองตีเต็มๆ ก็ไม่มากอย่างที่คิด เป็นก้านที่ตีไม่ยากเกินไป แต่ถ้าเป็นนักกอล์ฟมือดีมีความเร็วหัวไม้สูงและต้องการความแม่นยำ รุ่น 61 ก็คงยังไม่ใช่คำตอบ ลองเทียบกับ Kusala Series ก็จะเห็นว่าต่างกันเยอะครับ

Miyazaki C.Kua 59S Vs Miyazaki Kusala 61S

R9 SuperDeep TP Miyazaki C.Kua 43S Vs C.Kua 59R

Miyazaki C.Kua 39S Vs Miyazaki C.Kua 43A